Saturday, June 20, 2009

up กันซักหน่อย

แอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดจาก pixar เรื่อง " UP " ไปดูมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ส่วนตัวคิิดว่าสนุกมากมีมุกตลก
แทรกอยู่ตลอดเวลา เป็นแอนิเมชั่นน่ารักๆอีกเรื่องนึง ที่แทรกเข้ามาอยู่ในใจกันเลยทีเดียว ตัวละครน่ารัก
ทุกตัวเลย ไม่ว่าจะเป็นคุณปู่ Carl/ เด็กลูกเสือ Russell/ นก Kevin / หมาอีกหลายตัวเยอะแยะมาก
มายไม่ว่าจะเป็น Dug/ Beta/ Gamma และ Alfa หมาจ่าฝูงตอนเสียงเล็กๆนี่ฮามาก


คลายเครียดกันไปเลยหลังจากดูหนังเสร็จ...
สีสันจากลูกโป่งนี่มัน...ไม่รู้สิ เห็นแล้วมันสดใสมีชีวิตชีวาดีนะ


เอาไปกันอีกซักรูปจากความประทับใจ
เกือบลืมไปอีกเรื่องหนึ่ง หลังจากดูเรื่องนี้จบ เพิ่งจะรู้นะเนี่ยว่าเวลาที่ลูกเสือจะขอความช่วยเหลือให้ตะโกน
ออกมาดังๆว่า "กาการ่า"


ไหนๆอัพล่ะ ก็เลยถือโอกาสเพิ่มไปอีกเรื่องเลยแล้วกัน หลังจากที่ไม่ได้อัพมานานแสนนาน

เดือนที่แล้วไป "เสม็ด" มา ตอนแรกก็กลัวฝนตกมาก ถ้าตกล่ะจบกันอดไปไหนมาไหนแน่ๆแต่แล้วฟ้าฝน
ก็เป็นใจ ฟ้าใสตลอดเกือบทั้งสองวันที่อยู่ที่นู่นมาตกเอาวันที่สามวันที่จะกลับ คราวนี้เปลี่ยนที่พักไปพักที่
เสม็ดคลับ (ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร ห้องแคบมากเมื่อเทียบกับ lima bella ที่ไปพักเมื่อคราวที่แล้ว )


ร้านอาหารร้านใหม่ที่เพิ่งจะค้นพบในคราวนี้ "ร้านบ้านผู้พัน" เป็นอาหารฝรั่ง อร่อยมากให้เยอะมาก
ขอแนะนำสำหรับคนที่ยังไม่เคยได้ไปลิ้มลอง ขอบอกคำเดียวว่าต้องไปลองแล้วจะติดใจ โชคดีวันนั้นไม่
ค่อยมีคน บรรยากาศสบายๆเปิดเพลงชิวๆ นั่งฟังเสียงคลื่นลมทะเล เหมือนร้านเป็นของเรา




อันนี้ถ่ายที่หาดหน้ารีสอร์ท น้ำทะเลไม่สวยเท่าอ่าวไผ่ แต่ช่วงที่ไปนั้นเล่นน้ำอ่าวไผ่ไม่ค่อยเวิร์คคนเยอะ
มากๆๆเล่นมันที่รีสอร์ทนี่ล่ะสบายดี


จุดชมวิวเสม็ดไปเสม็ดมาก็หลายทีล่ะ ขับผ่านตรงนี้ก็ตั้งหลายครั้งไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปซักที แต่คราวนี้ไม่
พลาดกับ "จุดชมวิวเสม็ด" สวยดี




คุณเต้าฮวย ผู้ร่วมเดินทางกันในครั้งนี้


ปิดท้ายด้วยภาพรองเท้าแตะของทางรีสอร์ท ซะหน่อย ไม่ได้ใช้เลยใช้แต่รองเท้าตัวเอง มอมกันไปข้างนึง


"กาการ่า" เหนื่อยแต่สนุกดี

Sunday, February 22, 2009

Mr. MJ

ไม่รู้เหมือนกันนะว่าจะเรียกเจ้าตัวนี่ว่าตัวอะไรดี ดูไปบางทีก็เหมือนกระต่าย ดูไปบางทีก็เหมือนหมี 55
แต่ก็ช่างมันเหอะเนอะ เพราะว่า Mr. MJ ตัวนี่เป็นตุ๊กตาตัวแรกที่เราเย็บขึ้นมาเอง ( ขออวดหน่อย
นะ 55 แอบภูมิใจ) ไปเดินเลือกซื้อผ้าซื้อด้ายเองเลยนะ ที่พาหุรัดนี่มีทุกอย่างจริงๆใครที่ชอบเย็บปักถัก
ร้อย คงจะชอบ ไอ้ตอนทำช่วงที่สนุกที่สุดก็ตอนปักตัวอักษรต่างๆนี่ล่ะสนุกดี แต่เมื่อยมือไปหน่อยนะ
แม่เห็นบอกว่า " ไม่น่าเชื่อลูกสาวฉันจะชอบเย็บปักถักร้อย " เป็นงั้นไป เอาเป็นว่าก็เพลินๆ ดี
( แม่แอบช่วยนิดหน่อย เนื่องจากตัวเราเองใช้จักรไม่ค่อยเป็น สงสัยจะทนดูไม่ได้ )

หลายๆคนก็คงจะเป็นเหมือนกัน เวลาจะให้ของขวัญใครก็อยากจะทำขึ้นมาเองบ้าง หรืออย่างน้อยที่สุดก็
ต้องสรรหาวิธีการห่อ หากระดาษห่อ มาห่อเองให้สวยที่สุดล่ะน๊า...


แล้วคุณล่ะมองเจ้าตัวนี่เหมือนอะไร?

เกี๊ยวซ่า

เกี๊ยวซ่า ทำครั้งนี้เป็นครั้งที่สองล่ะ ครั้งแรกอยากลองทำก็เลยกะกะมั่วเอาเอง อืมมก็อร่อยดี แต่ครั้งนี้มี
คนช่วยทำ คุณเต้าฮวยนั่นเองช่วยหาสูตรมาให้ มันก็เลยสมบูรณ์ขึ้นอร่อยขึ้น 555 อ้าว...ชมตัวเองเข้าไป
ตัวเราเองทานเกี๊ยวซ่าตามร้านอาหารไม่ได้ เพราะว่าส่วนใหญ่มันเป็นไส้หมู เลยต้องทำกินเอาเองว่างั้น
เนื่องจากทานหมูไม่ได้ ไม่ได้พงไม่ได้แพ้อะไรหรอก...เป็นอิสลาม

มาเริ่มกันเลยดีกว่า ใช้ไก่สับแทนหมู / ต้นหอมซอย / น้ำมันงา / ไข่แดง / กะหล่ำปลีฝอยลวก /
ปรุงด้วยซีอ้ิวและพริกไทยนิดหน่อย ( ถ้าจำไม่ผิดนะ ) ทุกอย่างก็กะกะเอาเหมือนเดิม


เอาแป้งมาห่อ แป้งเกี๊ยวซ่าก็หาซื้อได้ง่ายๆที่อิเซตัน หรือ villa ก็ได้ แต่รู้สึกว่าที่อิเซตันจะหนากว่า ส่วนที่
ห่อเราก็ซื้อเอาที่ไดโซ คาดว่าถ้าห่อเองอีกนานกว่าจะได้ทาน สภาพก่อนการเอาไปนึ่ง


ห่อเสร็จแล้วก็เอามานึ่ง ( ฮ่าๆๆ มีใบตองๆ ตัดมาจากบ้าน คอนโดคุณเต้าฮวยไม่มี )


หลังจากนั่นพักแป็บนึง แล้วก็เอามาทอดบางคนก็บอกว่าทอดด้วยน้ำมันนิดหน่อยก่อนพอกรอบๆ แล้วก็
เอาน้ำใส่ในกะทะอีกนิดหน่อยแล้วก็เอาฝาปิด แต่ส่วนตัวเราชอบแบบไม่ต้องใส่น้ำ เดี๋ยวมันนิ่ม...


แต่น แต็น แต๋น... สำเร็จแล้ว...เกี๊ยวซ่า


มาถ่ายชัดๆกันอีกที ( หน้าตาพอใช้ได้นะ )


กินกับกะหล่ำปลีฝอยและน้ำจิ้มที่คุณเต้าฮวยทำ...อร่อย อร่อย


Wednesday, February 18, 2009

วาดเล่นวาดเล่น


วาดเอาไว้นานล่ะสมัยฝึกใช้ wacom ใหม่ๆ ช่วงนี้เอาออกมาเตือนความจำจะได้ปัดฝุ่นกันใหม่ซะที
...ฝุ่นเกาะเยอะเหลือเกินช่วงนี้...

Monday, February 16, 2009

วันแห่งความรัก ณ ราชบุรี

เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาไป อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรีมา ติดค้างกันมาตั้งแต่ช่วงปีใหม่ที่ว่าจะไป แต่ไม่ได้ไปซักที
เนื่องจากจองกี่ทีกี่ทีก็เต็มทุกทีไป คราวนี้โชคดีที่คนที่เค้าจองไว้ก่อนไม่โอนเงินมาสักที ก็เลยเป็นโอกาส
ของเราไป ทางขับเข้าไปรู้สึกว่าจะงงนิดหน่อยมีหลายเลี้ยวเหลือเกิน เป็นสถานที่พักผ่อนอีกที่นึงที่ไม่ไกล
มากขับรถไปสองชั่วโมงก็ถึงล่ะ เร็วกว่าจากบ้านเราขับไป CTW เวลารถติดซะอีก
....เสียดายอากาศตอนกลางวันร้อนไปหน่อย....


อุทยานเขางู ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเรียกกันว่าเขางู สวยดีเหมือนกันนะ แต่น่าเสียดายที่น้ำมันเหือดแห้ง
ไปหน่อยเนื่องจากอากาศร้อนมาก แต่แถวนั้นลิงเยอะมาก จอดรถไว้นี่หันไปมองอีกทีลิงเต็มรถเลย...


แวะไป บ้านหอมเทียน เห็นหลายๆคนบอกว่าเทียนที่นี่สวยดี แต่ส่วนตัวเราว่าเฉยๆนะ ก็ไม่ได้ดูแปลก
หรือมีเอกลักษณ์อะไรมากมาย


ส่วนรูปข้างล่างนี่ไปแวะทานกาแฟที่ บ้านอ้อมกอดขุนเขา ที่นี่ดูใหญ่มากต้องใช้รถกอล์ฟรับส่งคนที่มา
พักกันเลยทีเดียว แต่รูปที่เอามาให้ดูนี่ถ่ายแถวๆบริเวณร้านกาแฟ ม้ากระโดกน่ารักดีแอบอยากเล่นนะ แต่
ไม่กล้านั่งกลัวของเค้าหัก ฮ่าๆๆ ส่วนอีกรูปนึงเป็นม้าที่เค้าเลี้ยงเอาไว้เล็มหญ้าบริเวณทางเข้า


และ scenery resort หลายคนที่ไปแถบสวนผึ้งจะต้องแวะไป และเราเองก็ไม่พลาดไปดูแกะที่ทาง
รีสอร์ทเลี้ยงไว้ เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเห็นแกะตัวเป็นๆนี่ล่ะ เคยเห็นแต่แพะ แต่เราว่าเสียงร้องมันก็คล้ายๆ
กันนะ น่ารักดีแต่ว่ามอมไปหน่อยนะ มีอีกรีสอร์ทหนึ่งอยู่บริเวณใกล้ๆกัน นั่นก็คือ nagaya resort
ตอนแรกก็ว่าจะไปที่นี่แต่จองไม่ได้เต็มยาวเลย ดูเป็นรีสอร์ทเล็กๆน่ารัก แต่ดูอบอุ่นดี







ถึงซะที panalee resort ที่พักของเรา แปลกและแตกต่างจากที่อื่นเนื่องจากที่นี่ไม่ได้สร้างบ้านแบบ
ขาวๆอย่างที่รีสอร์ทแถวนี่มักจะสร้างกัน แต่สร้างบ้านออกมาในแบบสีอิฐ และรวมๆจัดบรรยากาศให้ดู
เหมือน แอฟริกัน ก็แปลกดีนะ แต่ว่ารีสอร์ทนี่เพิ่งเปิดมาไม่นาน ต้นไม้อะไรก็ยังไม่ค่อยโตและร่มรื่นซัก
เท่าไร แต่แอบคิดสนุกๆว่า ถ้าทางรีสอร์ทนี่เค้าทำปูนปั้น ให้เป็นรูปยีราฟ รูปเสือ รูปสัตว์ป่าต่างๆนานา
แบบขนาดเท่าจริงนะ ก็คงจะน่ารักและเป็นจุดดึงดูดลูกค้าได้ดี ก็เลยแอบบอกพี่เค้าไว้ตอนเช็คเอาต์ พี่
เค้าบอกว่ากำลังสั่งทำอยู่ คราวหน้ามาเจอแน่นอนค่ะ
...และนี่บ้านที่เราพัก ชื่อเอื้องมณี จริงแล้วเค้าน่าจะตั้งชื่อให้ดูเข้ากับบรรยากาศเค้าหน่อยเนอะ




ถ่ายจากดาดฟ้าบ้านพัก มองไปเห็นทิวแถวเทือกเขาตะนาวศรี พอตกเย็นพลบค่ำหน่อยบรรยากาศดีมาก
เกือบลืมบอกไปอย่างนึง อาหารของทางรีสอร์ทอร่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นบาร์บิคิว ข้าวผัด หรือยำ อร่อยๆ


บรรยากาศตอนกลางคืนของที่นี่ อากาศเย็นสบายกำลังดี ต่างกับตอนกลางวันมากมาย แต่ตอนเช้านี่ซิแปลก
หนาวมากมาก



ทางรีสอร์ทได้จุดเทียนซะทั่วสนามหญ้าเลย โรแมนติคกันซะทั้งรีสอร์ท จัดโต๊ะไว้สำหรับทานอาหารเย็น
หรือว่าถ้าใครไม่สะดวกต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถบอกรีสอร์ทได้ว่าจะทานบนดาดฟ้าบนบ้าน



ขากลับแวะเข้าไปที่อ่างเก็บน้ำชัฏป่าหวาย ไม่ค่อยสวยเลย แต่บังเอิญไปเจอฟาร์มหมา bulldog ตั้งอยู่
ก่อนทางเข้า เลยแวะเข้าไปสักหน่อยน่ารักดี ซ้ายมือ french bulldog ขวามือ english bulldog


*กลับมาถึงกรุงเทพตั้งแต่บ่ายสองได้ ตกเย็นออกไปกินร้าน มิตรโกหย่วน แถวๆเสาชิงช้า ได้ยินชื่อมา
นาน วันนี้มีโอกาสไปชิม ติดใจๆอร่อยดี ร้านนี่เค้าคิดหน่วยเงินเป็นสตางค์ ชดใช้ค่าเสียหายไป 22000

Tuesday, February 10, 2009

Ride a bike

My bike - ได้มาเกือบจะสิบปีได้ล่ะมั้ง ตั้งแต่สมัยตอนเรียนม.3

ช่วงนี้เอาเจ้าแก่นี่ออกมาขี่บ่อยขึ้น ตอนเย็นบ้าง ตอนเช้าบ้างแล้วแต่อารมณ์ว่างั้น หลังจากที่ไม่ได้เอาออก
มาขี่นานมากแล้ว วันนี้ก็เลยถ่ายรูปมาสักหน่อยเป็นการเตือนความจำเห็นทุกวันๆจะได้ขี่เป็นกิจวัตร ช่วงนี้
ออกกำลังกายมากขึ้นทั้งว่ายน้ำทั้งขี่จักรยาน( พอดีสระว่ายน้ำสโมสรหมู่บ้านทำใหม่ บรรยากาศดีทีเดียว
แบบว่ามองออกไปเห็นสระบัว แบบว่าเห่อว่างั้น ฮ่าๆๆ )


ถ่ายขณะพักยืดเส้นยืดสายที่ทะเลสาปหนึ่งในหมู่บ้านสัมมากร

Saturday, January 10, 2009

In Childhood

วันนี้วันเด็ก


" do you remember when you were young? "

Tuesday, January 6, 2009

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

โพสแรกของปีนี้...

วันหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมานี้หลายๆคนคงจะไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างจังหวัดกันเยอะ รวมถึงตัวเราเองด้วย
ไม่ต้องถามเลยว่าไปไหนมา จะไปไหนได้ซะอีกล่ะ นอกจากลำปางที่ที่แสนจะคุ้นเคย ตอนแรกกะว่าจะอยู่
กรุงเทพแบบสบายๆ โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบไปไหนตอนช่วงเทศกาลซักเท่าไร คนมันเยอะ แต่พ่ออยาก
ไปดูไร่ ( อีกล่ะหรอ ) เป็นห่วงก็เลยอาสาขับรถไปให้ แต่มีข้อแม้ซักหน่อยนึงล่ะกันนะ ไปสามวันพอนะพ่อ
เหลืออีกสองวันไว้ให้เราได้ทำอะไรบ้าง...

เริ่มออกเดินทางวันที่ 31 ธ.ค. 2551 เวลา 05.00 น. เห็นจะได้เพราะว่ากลัวรถติด และก็เป็นอย่างที่คาด
ไว้ติดนิดหน่อยผ่านนครสวรรค์มาได้ก็คงพ้นช่วงรถติดล่ะ ดีนะเนี่ยที่ออกเช้า


ขับรถต่างจังหวัดก็ดีไปอย่างนะ ไม่ค่อยเจอไฟแดง ภาพที่เห็นตรงหน้าก็เป็นภูเป็นเขาซะส่วนใหญ่ มองได้
ไกลดี ไม่มีอะไรมาบดบัง สนุกก็ตรงขับรถขึ้นเขาลงเขานี่ล่ะ...มันส์มาก


แต่กว่าจะถึงบ้านก็นะ ปาเข้าไป 17.00 น. เนื่องจากแวะนั่นแวะนี่ไปเรื่อยเปื่อย ไม่เคยแวะอะไรเยอะขนาด
นี้เลยนะเนี่ยจากปกติเที่ยงๆก็น่าจะถึง ข้าวกลางวันเราแวะทานกันที่ตากสเต็กเฮ้าส์เป็นของสหกรณ์เพียงพอ
พอเพียงอะไรสักชื่อนี่ล่ะ ที่นี่เค้ามีฟาร์มเลี้ยงวัว นกกระจอกเทศเองด้วย ส่วนสเต็กนั่นต้องบอกว่าเนื้อนุ่มมาก
ขิ้นใหญ่มาเป็นจานร้อนกันเลยทีเดียว พร้อมเครื่องเคียง ไม่แพงด้วย คุ้มๆๆ ยังไงใครแวะไปตากก็แนะนำ
อย่าลืมแวะไปทานกัน อร่อย อร่อย...


อากาศเย็นนิดหน่อย แต่พอตกกลางคืนแล้วที่นั่นหนาวมาก ( ช่วงฤดูหนาว ) บ้านป้าที่ลำปางนั่นตั้งอยู่ใน
พิกัดที่เรียกว่าห่างจากตัวเมืองลำปาง มากเลยทีเดียวเป็นช่วงที่จะเดินทางต่อไปเชียงใหม่หรือเชียงรายก็ได้
แต่ว่าก็ไกลอยู่เหมือนกันเพราะฉะนั้นบรรยากาศที่นั่นมันก็จะสงบและเงียบมาก มองออกไปรอบๆก็จะเป็น
ภูเขาซะส่วนมาก




อยู่ที่นั่นก็ไม่ได้ไปไหนเพราะว่าพ่อก็อยู่ในไร่ในสวนไม่ยอมไปไหน ใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่ากับต้นไม้ ดอกไม้ที่
พ่อชอบ ฮ่าๆ ส่วนตัวเองก็รู้สึกดีนะบรรยากาศที่นี่ดี อากาศบริสุทธิ์สดชื่น ช่วงพ่อปลูกต้นไม้ พรวนดินรดน้ำ
พ่อชอบที่จะลงมือเองทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่ใช่แต่เฉพาะที่ไร่ที่ลำปาง ที่กรุงเทพก็เหมือนกันทุกเสาร์อาทิตย์
ก็จะเห็นพ่อใส่ปุ๋ย รดน้ำอยู่บ่อยครั้ง จำได้ว่าสมัยเด็กเวลาคนในครอบครัวว่างพร้อมกันก็ช่วยกันพรวนดิน
ปลูกต้นไม้ยังงี้ล่ะ จำได้อีกว่ารดน้ำต้นไม้ที่ไรเปียกทั้งตัวทุกที ไม่เข้าใจ เคยซื้อชุดอุปกรณ์ทำสวนมาให้พ่อ
รู้สึกได้ว่าพ่อจะชอบมากกว่าเสื้อผ้า หรืออื่นๆที่เคยซื้อให้เสียอีกแต่พ่อก็มีคำถามอยู่ประโยคหนึ่งว่า ทำไม
ชุดอุปกรณ์ทำสวนที่ซื้อมามันต้องดูมีดีไซน์สวยงามด้วย ซื้อแบบธรรมดาปกติก็ได้นะจะได้ไม่ต้องแพงมาก
อ้าว...อย่างน้อยมันก็เจริญหูเจริญตาดีนะ เวลาที่หยิบขึ้นมาใช้ อย่างน้อยมันก็ตอบโจทย์สำหรับพ่อที่ชอบ
การปลูกต้นไม้ และสำหรับเราที่ชอบเรื่องของการดีไซน์


ขากลับแวะกินข้าวซอยที่ลำปาง ร้านนี่เป็นจีนอิสลาม มีเนื้อสเต็ะ ไก่สเต็ะ ขายด้วยอร่อยอีกเช่นกัน เพิ่งรู้ว่า
จีนที่เรียกว่าจีนฮ่อเนี่ย ส่วนใหญ่เป็นอิสลาม ร้านนี้อยู่ในตัวเมือง เท่าที่เห็นปีนี้คนไปลำปางเยอะกว่าทุกๆ ปี
สงสัยจะไปไหว้พระกัน


และทุกๆครั้งที่ไปลำปางสิ่งแรกที่นึกถึงก็คือ เจ้าเมฆ กับเจ้าหมอก แต่ส่วนใหญ่จะเล่นกับเจ้าเมฆ เจ้าหมอก
มันขี้อาย




สงสัยช่วงนี้จะไม่ได้ตัดเล็บ เล็บคมมาก


ตัวโตขึ้นเยอะเหมือนกัน ดูมัน ดูมัน...ไถอยู่นั่นล่ะ


ส่วนนี่เจ้าแรมโบ้หมาของบ้านป้าที่เลี้ยงไว้ จะดุไปไหนเนี่ย


มีลูกไก่ที่เลี้ยงไว้ด้วย เพิ่งรู้ว่าไก่ชอบถ่ายรูป วิ่งไปฝั่งไหนมันก็วิ่งตาม ตอนมันตัวเล็กๆ ก็น่ารักดีนะ แต่พอ
มันโตเต็มวัยล่ะมันดูน่ากลัวนะเราว่า โดยส่วนตัวเป็นคนกลัวสัตว์ปีก


เดินทางกลับมากรุงเทพอย่างปลอดภัยในวันที่ 2 ม.ค. 2552 ขากลับรถติดบ้างแต่จะมาติดมากตรงช่วงที่
เข้าวงแหวนแล้ว ปีใหม่ปีนี้ไม่ได้เคาท์ดาวน์อะไร นอนหลับซะงั้น สงสัยคงจะเหนื่ิอยมาก

มาเริ่มกันอีกในวันที่ 3 ม.ค. 2552 มีโปรแกรมไปทานข้าวเย็นที่ร้านระเบียงทะเลที่บางปูกับคุณเต้าฮวย
เพิ่งรู้ว่ามันใกล้บ้านเรามากขับรถไปประมาณไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงล่ะ ( รถไม่ติดนะ ) ... มาเริ่มกันที่ฟาร์ม
จระเข้ เคยไปสมัยตอนเด็กๆนานมากล่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนไปสวนสัตว์เลย มีสัตว์อย่างอื่นให้ดูด้วยนิด
หน่อย เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งนึง




ยัวเยี้ยเลยทีเดียว...หลังจากที่ไม่ได้เห็นจระเข้ตัวเป็นๆมานานมาก ดูแต่ในสารคดี รู้สึกว่ามันเป็นสัตว์ที่
น่ากลัวมากกกก


มีเสือให้ดูด้วย


แต่ที่แปลกใจคือมีอยู่กรงหนึ่ง มันอยู่กับหมา งงนิดหน่อย แต่อยากรู้ว่าหมามันจะรู้สึกยังไง ?


ไม่เคยได้ใกล้เสือขนาดนี้เลยนะเนี่ย ขนมันดูนุ่มๆดี น่ากอด ห่างกันไม่ถึงหนึ่งฟุต


และไปบางปูก็คงไม่พ้นที่จะต้องไปดูนกที่สถานที่ตากอากาศบางปู คนเยอะมากถึงมากที่สุด แต่นกก็ยังคง
เยอะเหมือนเดิม และก็ยังคงมีปัญหาสงสัยอยู่เหมือนเดิมว่า ทำไมนกต้องกินหนังไก่ทอด ?

- มันไม่ได้ชอบแต่คนยัดเหยียดให้
- แล้วถ้ามันกินมากคอเรสเตอรอลมันจะสูงมั้ย
- หรือว่าหนังไก่ทอดมันโยนได้แต่ขนมปังโยนไม่ได้
- แล้วปกติมันกินอะไรล่ะ


คิดไปสารตะ ต่างๆนานา ก็ยังไม่แน่ใจ


แต่ที่รู้แน่ๆ คือ นกสายตาดีมาก โยนปุ๊บมันโฉบมาพอดีเข้าปากมันปั๊บ


หลังจากนั้นก็ไปที่ร้านระเบียงทะเล ร้านเล็กไปหน่อยแต่บรรยากาศก็ดีนะ คนเยอะมาก


มองออกไปนอกร้านก็จะมองเห็นทะเลในฝั่งอ่าวไทย


มึอีกหลายร้านแถวนั่น อาหารที่ร้านระเบียงทะเลนั่นไม่ค่อยจี๊ดจ๊าดเท่าที่ควร คนเยอะเกินแอบเวียนหัว


รู้สึกว่าปีใหม่ปีนี้ได้ใกล้ชิดกับสัตว์โลกนานาชนิดกันเลยทีเดียว
..........................................................................
ปีที่ผ่านมานี้ทุกๆอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังคงไม่ได้ทำ สุขภาพอาจจะไม่ค่อยดี
ช่วงต้นปีแรกแต่หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสดูแลตัวเองมากขึ้น จริงจังและควบคุมตามคำสั่งของหมอมากขึ้น
และมันก็เห็นผลว่าสุขภาพดีขึ้นตามลำดับในช่วงครึ่งปีหลัง ปีนี้สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะดูแลตัวเองให้มาก
ขึ้น จะได้ทำหลายๆสิ่งที่เรารักอย่างสบายใจและสบายกายซักที " be in a fighting mood " สู้ สู้